กรณีเจ้าหน้าที่ทหารหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 46 หรือฉก.ทพ.46 ในพื้นที่จังหวัดนราธิวาสปฏิบัติหน้าที่ในการอำนวยความสะดวกในงานสืบสานประเพณีวัฒนธรรม ตำบลโคกสะตอ อำเภอรือเสาะ จังหวัดนราธิวาส เมื่อวันที่7 กันยายน 2567 ที่ผ่านมานั้น
ปรากฏถึงการปฏิบัติหน้าที่ที่ถูกประชาชนในพื้นที่ตั้งคำถามถึงความไม่เหมาะสมเป็นวงกว้างอันมีผลกระทบต่อความเชื่อมั่นในภารกิจแก้ไขปัญหาความไม่สงบในจังหวัดชายแดนภาคใต้ของหน่วยงานความมั่นคงโดยเฉพาะหน่วยทหารพรานที่มีบทบาทสำคัญในการปฏิบัติงานในพื้นที่อย่างยิ่ง
บรรดาผู้ทรงคุณวุฒิและผู้รู้นักวิชาการทางศาสนาซึ่งมีส่วนสำคัญในการประสิทธิ์ประสาทความรู้และจรรโลงซึ่งหลักคุณธรรมจริยธรรมที่สืบสานมาอย่างยาวนานอันเป็นรากฐานของชุมชนและเป็นบุคคลที่ประชาชนในท้องถิ่นให้ความเคารพนับถือการยึดป้ายยึดรูปถ่ายของบรรดาบุคลลที่น่านับถือดังกล่าวออกจากกลุ่มชนที่ยกย่องนั้น ถือเป็นการกระทำที่ก่อให้เกิดความไม่สบายใจเป็นอย่างยิ่งอีกทั้งยังถือเป็นการล่วงละเมิดสิทธิและเสรีภาพในการแสดงออกซึ่งการเชิดชูสถาบันครูบาอาจารย์อย่างน่าละอายใจ
ตลอดจนออกตำสั่งมิให้แสดงออกถึงความห่วงใยต่อกลุ่มชนที่ได้รับความอยุติธรรมและได้รับผลกระทบจากสงครามเช่นชาวปาเลสไตน์ ซึ่งปรากฏชัดถึงสถานการณ์ที่มุสลิมทั่วโลกต่างรวมใจเป็นหนึ่งเดียวในการสื่อสารซึ่งการฟื้นฟูสันติภาพและรักษาความยุติธรรม
ทั้งนี้ ประเทศไทยได้ให้การรับรองและมีความสัมพันธ์ทางการทูตกับรัฐปาเลสไตน์เป็นรัฐอธิปไตยในวันที่ 18 มกราคม พ.ศ. 2555
การระงับมิให้เสรีชนแสดงออกถึงความห่วงใยและการรักษาความยุติธรรมนั้นถือเป็นภัยคุกคามต่อสันติภาพรูปแบบหนึ่งและถือเป็นการปฏิบัติที่ไร้ข้อกฏหมายใดรองรับและถือเป็นการปฏิบัติที่ไร้ข้อกฏหมายใดรองรับ
พรรคประชาชาติขอแสดงจุดยืนถึงความห่วงใยในกรณีที่เกิดขึ้นและขอร้องไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ผู้บัญชาการเหล่าทัพตลอดจนผู้มีบทบาทในการสร้างสันติภาพในพื้นที่ชายแดนภาคใต้
จึงขอแสดงความห่วงใยและเรียกร้องให้มีความรอบคอบเพื่อไม่ให้เกิดการละเมิดสิทธิเสรีภาพในการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่รัฐทุกระดับด้วย
พรรคประชาชาติ
วันที่ 11/09/2567